Integrity Thailand

การไม่เปิดเผยตัวตนในการแจ้งเบาะแส: ข้อดี ข้อเสีย และวิธีแก้ปัญหา

Putri Pertiwi
August 31, 2023
1 นาทีในการอ่าน
Featured image for: การไม่เปิดเผยตัวตนในการแจ้งเบาะแส: ข้อดี ข้อเสีย และวิธีแก้ปัญหา

ระบบการแจ้งเบาะแสมีบทบาทสำคัญในการตรวจจับการประพฤติมิชอบและเป็นส่งเสริมพฤติกรรมที่มีจริยธรรมภายในองค์กร อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงแล้ว การ “แจ้งเบาะแส” อาจทำให้ผู้แจ้งเบาะแสตกอยู่ในความเสี่ยงอย่างมาก

นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงอื่นๆ ผู้ที่เปิดเผยการประพฤติมิชอบอาจต้องเผชิญกับการตอบโต้ การคุกคาม หรือการสะท้อนกลับทางวิชาชีพอื่นๆ เมื่อพิจารณาถึงความเสี่ยงเหล่านี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่บุคคลต่างๆมักจะลังเลที่จะรายงานเหตุที่ต้องสงสัยทางอาญาที่พวกเขาพบเจอ ซึ่งจากการศึกษาของ ACFE ระบุว่ายิ่งการฉ้อโกงใช้เวลานานเท่าใด ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับองค์กรก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

และเพื่อเอาชนะความเสี่ยงเหล่านี้ นี่จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับองค์กรในการส่งเสริมความไว้วางใจและความโปร่งใสให้เป็นวัฒนธรรมภายในองค์กร ซึ่งการไม่เปิดเผยตัวตนในระบบการแจ้งเบาะแสนี้นับเป็นบทบาทสำคัญในการส่งเสริมวัฒนธรรมเหล่านี้

ข้อดีและข้อเสียของการไม่เปิดเผยตัวตน 

จากการสำรวจที่จัดทำโดย ACFE และ IAA ผู้ตอบแบบสอบถามอ้างว่าการไม่เปิดเผยตัวตนคือการพิจารณาสูงสุดต่อความสำเร็จของระบบแจ้งเบาะแส ความสำเร็จในบริบทนี้หมายถึงระบบที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อตรวจจับการประพฤติมิชอบหรือการฉ้อโกง

ด้วยการอนุญาตให้บุคคลรายงานการประพฤติมิชอบโดยไม่ต้องเปิดเผยตัวตน องค์กรต่างๆ จึงได้จัดให้มีการป้องกันอีกชั้นหนึ่งจากการตอบโต้ที่อาจเกิดขึ้น การปกป้องระดับนี้ส่งเสริมให้พนักงานกล้าแสดงออก โดยรู้ว่าความเป็นส่วนตัวของพวกเขาจะได้รับการเคารพ และพวกเขาจะได้รับการปกป้องจากผลกระทบด้านลบที่อาจเกิดขึ้น

แม้ว่าการไม่เปิดเผยตัวตนจะมีประโยชน์ในการสนับสนุนวัฒนธรรมทางจริยธรรมขององค์กร แต่ก็มีข้อเสียเช่นกัน ข้อเสียประการหนึ่งคือการที่ผู้ตรวจสอบไม่สามารถสื่อสารแบบสองทางกับผู้แจ้งเบาะแสได้ การสื่อสารดังกล่าวจำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลและหลักฐานเพิ่มเติม, ชี้แจงเรื่องการละเมิดที่รายงานหรือตรวจสอบหลักฐาน ซึ่งการขาดการสื่อสารดังกล่าวอาจขัดขวางกระบวนการสืบสวนได้

ข้อเสียนี้คือสาเหตุที่บางองค์กรเพิกเฉยต่อการไม่เปิดเผยตัวตนในระบบการแจ้งเบาะแสของตน อย่างไรก็ตาม หากมีการเลือกใช้บริการระบบการแจ้งเบาะแสของบุคคลที่สามที่มีความสามารถและมีประสบการณ์ องค์กรอาจเอาชนะความท้าทายด้านการสื่อสารที่กล่าวถึงนี้ได้

จัดการกับความท้าทาย

เหตุใดจึงต้องใช้บริการระบบการแจ้งเบาะแสของบุคคลที่สาม? ประการแรก บุคคลที่สามจะเป็นหน่วยงานภายนอกที่ไม่มีส่วนได้เสียในองค์การ, สร้างความมั่นใจในการอนุมัติตามวัตถุประสงค์และกระบวนการติดตามผลสำหรับรายงาน

ประการที่สอง บริษัทไม่จำเป็นต้องจัดสรรทรัพยากรบุคคลและเวลาเพิ่มเติมเพื่อสร้าง, บริหารจัดการและพัฒนาระบบการรายงานการประพฤติมิชอบของตนเอง ในฐานะที่เป็นบุคคลที่สามในการแก้ปัญหาการแจ้งเบาะแส Canary WBS นำเสนอเว็บแอปพลิเคชันพร้อมช่องทางการรายงานที่หลากหลายเพื่อความสะดวกในการใช้งาน ลูกค้าสามารถเข้าถึงรายงานได้ ในขณะที่ข้อมูลประจำตัวของผู้แจ้งเบาะแสจะได้รับการคุ้มครอง

นอกจากนี้ คุณสมบัติ Canary Mute ยังช่วยให้สามารถสื่อสารสองทางระหว่างผู้แจ้งเบาะแสและผู้ตรวจสอบได้โดยไม่ต้องให้ผู้แจ้งเบาะแสเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ที่อยู่,อีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์ ผู้แจ้งเบาะแสสามารถส่งรายงานและรับข้อมูลอัปเดต (รวมถึงการสื่อสารกับผู้ตรวจสอบ) โดยไม่ต้องสร้างบัญชี โดยใช้เพียงหมายเลขประจำตัวผู้รายงานและรหัสผ่านเท่านั้น

แทนที่จะขอรายละเอียดส่วนบุคคล ผู้แจ้งเบาะแสเพียงแค่เปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดที่รายงานเท่านั้น ซึ่งรวมถึงรายละเอียด เช่น แหล่งที่มาของหลักฐานและบทบาทของผู้แจ้งเบาะแสในองค์กร – ไม่ว่าจะเป็นบุคคลภายในหรือภายนอก จุดมุ่งหมายคือเพื่อปรับปรุงกระบวนการสืบสวนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ติดต่อเราเพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Canary® Whistleblowing System และบริการอื่นๆของเรา

Choose a platform to share this article. Links will open in a new window.