Integrity Thailand

ความเข้าใจและการคาดการณ์ความเสี่ยงจากการแจ้งเบาะแสการกระทำผิด

Putri Pertiwi
September 12, 2023
1 นาทีในการอ่าน
Featured image for: ความเข้าใจและการคาดการณ์ความเสี่ยงจากการแจ้งเบาะแสการกระทำผิด

ตามรายงานของ ACFE ในไตรมาส 4 ของปี 2022 พบว่า ระบบการแจ้งการกระทำผิด สามารถตรวจจับกรณีตัวอย่างการทุจริตและประพฤติมิชอบสูงถึงร้อยละ 42 และได้รับการตรวจพบอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยงานวิจัยดังกล่าวยังพบว่า ระบบการตรวจสอบดังกล่าวมีประสิทธิภาพสูงที่สุดเมื่อเทียบกับเครื่องมือตรวจสอบอื่น ๆ

อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของระบบขึ้นอยู่กับนโยบายขององค์กรที่ส่งเสริมและสนับสนุนบุคลากรในการรายงานหรือตั้งประเด็น ตลอดจนการให้ความคุ้มครองแก่ผู้รายงานการกระทำผิดด้วย

 

การเป็นผู้รายงานการกระทำผิดไม่ใช่เรื่องง่าย 

สิ่งหนึ่งที่หลายฝ่ายมีความเห็นเดียวกันคือการเป็นผู้รายงานการกระทำผิดไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อพิจารณาความเสี่ยงต่าง ๆ เช่น การข่มขู่ การถูกไล่ออกจากงาน ตลอดจนความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นกับตัวผู้รายงาน

หนึ่งในกรณีศึกษามาจากบริษัท Slync บริษัทมีการไล่พนักงานหลายสิบคนหลังจากพนักงานรายงานการทุจริตฉ้อโกงภายในบริษัท ซึ่งผู้ยักยอกเงินดังกล่าวไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็น CEO ของบริษัท

จากการรายงานของสื่อ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา (SEC) พบว่า อดีตผู้บริหารบริษัทSlync อย่าง Christopher S. Kirchner ถูกกล่าวหาว่าได้ทำการยักยอกเงินจากบริษัทกว่า 28 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากเงินลงทุน เพื่อตอบสนองวิธีชีวิตที่หรูหราของตน เช่น การซื้อเครื่องบินส่วนตัว เช่าอสังหาริมทรัพย์ และอื่น ๆ

การรายงานยังพบว่า นาย Christopher ยังได้นำเงินจากบัญชีธนาคารของบริษัท มาใช้การส่วนตัวอีกด้วย โดยนาย Christopher จะบังคับในพนักงานโอนเงินจากบัญชีของบริษัทไปยังบัญชีส่วนตัวของเขาโดยไม่ได้รับอนุมัติจากกรรมการของบริษัท

เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2020 และบริษัทได้ทำการไล่นาย Christopher ออกจากตำแหน่ง CEO ในเดือนสิงหาคม 2022 โดยในระหว่างนั้น พนักงานที่รายงานเหตุดังกล่าวต้องประสบต่อความทุกข์ทรมานเป็นเวลาหลายเดือนเนื่องจากพวกเขาไม่ได้รับเงินเดือนจากบริษัทอย่างที่พวกเขาควรได้

 

การตอบโต้ต่อผู้รายงานการกระทำผิด

การขาดระบบรายงานการกระทำผิดหรือระบบที่มีประสิทธิภาพ ทำให้การฉ้อโกงเกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน นอกจากนี้ นาย Christopher  ยังถูกกล่าวหาว่าได้ไล่ผู้บริหารหลายคนที่มีตั้งคำถามต่อปัญหาความโปร่งใสทางการเงินของบริษัทก่อนที่กรณีดังกล่าวจะถูกเปิดโปงโดยสื่อต่าง ๆ

ผู้บริหารฝ่ายการเงิน ผู้บริหารฝ่ายรายได้ และรองประธานบริษัท ได้รายงานต่อคณะกรรมของบริษัทว่า พวกเขาไม่สามารถเข้าถึงบัญชีของบริษัทได้ โดยนาย Christopher  เป็นบุคคลเดียวที่มีสิทธิ์เข้าถึงบัญชีของบริษัท รวมถึงเงินลงทุน 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการระดมทุนหุ้นรอบ B (Series B Shares)

จากรายงานยังพบว่า นาย Christopher ได้ไล่พนักงานออกถึงสามคน ตลอดจนพักงานพนักงานอีกหลายสิบคนเนื่องจากพวกเขาเปิดเผยข้อมูลเรื่องการค้างชำระเงินเดือนพนักงานต่อบุคคลภายในและภายนอกบริษัทอีกด้วย 

แม้ว่า นาย Christopher จะถูกปลดจากตำแหน่งโดยคณะกรรมการบริษัทเนื่องจากข้อกล่าวหาเรื่องการฉ้อโกง  นาย Christopher ยังคงตอบโต้กลุ่มคนเหล่านี้ด้วยการระงับบัญชีของผู้บริหารหลายคนจากช่องทางการสื่อสารของบริษัท

 

เราได้เรียนรู้อะไรจากกรณีนี้ ?

บทเรียนสำคัญที่ได้รับจากกรณีศึกษาดังกล่าวคือ ผู้รายงานได้รับผลกระทบจากผู้กระทำการฉ้อโกงซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัท รวมถึงการขาดความตระหนักของคณะผู้บริหารต่อระบบรายงานข้อมูลด้านการทุจริต ซึ่งการตระหนักรู้ดังกล่าวรวมไปถึงการสนับสนุนช่องทางการรายงานที่เป็นความลับ ไม่ระบุตัวตน และการมีนโยบายในการจัดการเหตุจากผู้รายงาน

นอกจากนี้ หากบริษัทต้องการให้ระบบการแจ้งเบาะแสทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด บริษัทควรส่งเสริมและเผยแพร่ข้อมูลเพื่อสร้างความตระหนักรู้ด้านนโยบายการแจ้งเบาะแสและการทุจริตต่อพนักงานอย่างต่อเนื่อง อาทิเช่น การเสริมสร้างความตระหนักรู้เรื่องการปกป้องตัวตนของผู้แจ้งเบาะแส

การรับประกันความปลอดภัยของผู้รายงานคือการมีช่องทางให้พวกเขาเลือกไม่ที่ระบุตัวตนในการรายงาน นอกจากนี้ ระบบการแจ้งเบาะแสจะต้องบริหารโดยหน่วยงานอิสระเพื่อหลีกเลี่ยงบความขัดแย้งในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน 

 

ด้วยเหตุนี้ องค์กรควรร่วมงานกับบริษัทบุคคลที่สามเพื่อรักษาความเสถียรภาพและอิสระภาพของระบบการแจ้งเบาะแส ซึ่งหนึ่งในบริษัทบุคคลที่สามที่มีความที่น่าเชื่อถือคือ Integrity Asia ที่มีศักยภาพในการสนับสนุนหน่วยงานบริหารทรัพยากรมนุษย์ที่มีความซื่อสัตย์และความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ซึ่ง Integrity Asia มีศักยภาพในการให้บริการระบบการแจ้งเบาะแสอย่างครอบคลุมสำหรับองค์กรต่าง ๆ

ระบบที่มีประสิทธิภาพคือระบบที่สามารถตรวจพบการทุจริตฉ้อโกงได้อย่างรวดเร็วที่สุดเพื่อลดความสูญเสีย ไม่ว่าจะในด้านทรัพย์สินหรือชื่อเสียงขององค์กรหรือหน่วยงาน

Choose a platform to share this article. Links will open in a new window.